ตามที่ปรากฎเป็นข่าวในสื่อออนไลน์ว่า มีครูในโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดบุรีรัมย์ ได้นำสมุดบัญชีเงินฝากของเด็กนักเรียน ซึ่งเป็นเงินออม ตั้งแต่ชั้นอนุบาล ถึงชั้น ป.6 รวม 72 คน ไปใช้ส่วนตัว เป็นเงินกว่า 530,000 บาท และรับปากจะหามาชดใช้คืนให้
ซึ่งเรื่องดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ช่วงเดือน ก.ย.65 หลังผ่านไปกว่า 1 ปี แต่ครูคืนเงินให้นักเรียนแค่ 4 คน ส่วนที่เหลืออีก 68 คน ที่จะทยอยใช้ แต่ผู้ปกครองบางส่วนเกิดความกังวลใจ เกรงว่าลูกหลานจะไม่ได้เงินที่เหลือคืน เพราะมีกระแสข่าวครูได้ยื่นเรื่องขอย้าย จึงได้ออกมาร้องขอความเป็นธรรม
วันนี้(30 ม.ค.67)เวลาประมาณ 13.00 น. พ.ต.อ.วชิรวิทย์ วรรณธาณี ผกก.สภ.ลำปลายมาศ ได้ดำเนินการดังนี้ เมื่อวันที่ 29 ม.ค.2567 ได้เรียก น.ส.กมลลักษณ์ ตำแหน่ง ผอ.โรงเรียน มาพบให้การว่า เมื่อวันที่ 11 พ.ย.2565 โรงเรียนได้ตรวจพบว่านับแต่ต้นเดือน ก.ค.2565-11 พ.ย.2565 ครูที่ปรากฎเป็นข่าว ทุจริตได้แสดงข้อความอันเป็นเท็จและปกปิดข้อเท็จจริงอันควรบอกให้แจ้ง หลอกให้นักเรียนและผู้ปกครองลงลายมือชื่อในใบถอนเงิน แล้วนำไปกรอกข้อความขัดวัตถุประสงค์แล้วนำเอกสารสิทธิปลอมไปใช้เบิกถอนเงินนักเรียน จากสมุดบัญชีเงินฝากธนาคารออมสิน สาขาลำปลายมาศ ของนักเรียนจำนวน 72 คน รวมเป็นเงิน 533,750 บาท ต่อมาเมื่อวันที่ 19 พ.ย.2565 โรงเรียนพร้อมคณะกรรมการสถานศึกษาและผู้ปกครอง จึงมีการเจรจากัน โดย ครูคนที่ตกเป็นข่าวรับว่าได้ถอนเอาเงินนักเรียนข้างต้นไปจริงได้มีการชดใช้คืนบางส่วนจำนวน 150,990 บาท คงเหลือ 382,760 บาท
ต่อมา ครูที่ตกเป็นข่าว ได้เข้ามอบตัวนับทราบข้อกล่าวหา “ปลอมและใช้เอกสารสิทธิปลอมฯ” สภ.ลำปลายมาศ จะได้เร่งรัดดำเนินการตามกฎหมายต่อไป